นุชนาฏ ได้งานเป็นผู้ช่วยเชฟในโรงเรียนสอนทําอาหารในโรงแรมชื่อดัง เธอได้ร่วมงานกับหัวหน้าเชฟสุดเนี้ยบอย่างปกรณ์ที่เป็นคนไทยเหมือนกันแต่กลับไม่เคยออมชอม แต่ยังโชคดีที่ได้เพื่อนใหม่อย่าง ซินซิน ที่คอยช่วยเหลือให้เธออยู่ย่างกุ้งได้อย่างสบายใจ
พ.ศ.2325 วันหนึ่งนางปิ่นซึ่งกำลังท้องอ่อน ๆ ทำงานหนักจนตกเลือด หม่องสะช่วยนางไว้ได้และให้มาพักรักษาตัวที่บ้านของตน เมื่อปิ่นอาการดีขึ้น ก็ได้ร่ายรําตามเสียงพิณของหม่องสะ แต่นั่นกลับทําให้อาการของเธอทรุดลงและแน่นิ่งไป
นุชนาฏเริ่มกังวลเพราะผลสแกนสมองพบว่ามีเนื้องอกกดทับเส้นประสาทควบคุมความทรงจำ หลังจากกลับมาที่ห้องเธอได้เล่าเรื่องความฝันถึงอดีตที่ได้ไปพบเจ้าฟ้ากุณฑลกับเจ้าฟ้ามงกุฎให้ปกรณ์ฟัง แต่แล้วเธอก็สับสนว่ามันเป็นความจริงหรือความฝันกันแน่
นุชนาฏฟื้นขึ้นมาในร่างของปิ่นอีกครั้ง หม่องสะทูลขอให้ปิ่นไปเป็นนางรำที่โรงละครหลวง และขอแปลบทละครอิเหนาเป็นภาษาพม่า เจ้าฟ้ากุณฑลอนุญาตเพียงให้ปิ่นไปร่วมคณะละครแต่ไม่ยอมให้แปลอิเหนา แต่สุดท้ายเจ้าฟ้ามงกุฎก็แอบให้บทละครอิเหนากับหม่องสะไป
นุชนาฏปรุงโมฮิงก่าที่พิชิตใจอูเทวฉ่วยได้สําเร็จ ปกรณ์ตัดสินใจบอกความรู้สึกของตัวเองกับนุชนาฏและไปเที่ยววัดมหาเตงดอจีด้วยกัน แต่นั่นกลับกลายเป็นวันที่ทั้งคู่แตกคอกันเพราะปกรณ์ต้องการย้ำว่าการเดินทางข้ามเวลาของนุชนาฏนั้นไม่เคยเกิดขึ้น
นุชนาฏตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลางโรงละครหลวง ป้าสวยแม่ของบากองบุกเข้ามากล่าวหาและต่อว่าว่าเธอตั้งใจแท้งลูกที่เกิดจากบากองและไปคบชู้กับสะสะ แต่สะสะก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ นุชนาฏสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในขณะที่เธอตื่นมาอีกครั้งที่กรุงเทพฯ
เจ้าฟ้ากุณฑลอนุญาตให้หม่องสะทำการแสดงอิเหนา เพื่อต้อนรับทัพหลวง หลังจากได้ดูการซ้อมของปิ่น ในวันงานปิ่นแสดงได้เป็นที่ประทับใจจนเจ้าชายชเวต่าวมินชื่นชมคณะละครหลวงเป็นอย่างมาก หลังการแสดงจบบากองผู้มีหน้าตาเหมือนกับปกรณ์ไม่มีผิดเพี้ยนได้เข้ามาหาปิ่น
บากองมาหาปิ่นที่โรงครัวแล้วพบว่าปิ่นไม่อยู่ที่นั่นแล้วจึงตามไปที่โรงละครหลวง นุชนาฏในร่างปิ่นหลบหน้าอยู่จนค่ำจึงค่อยกลับออกมา แต่ก็ถูกบากองดักไว้ได้ระหว่างทาง นุชนาฏไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้บากองเข้าใจว่าเธอเป็นหญิงคนอื่นที่มาอยู่ในร่างของนางปิ่น
นุชนาฏตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างนางปิ่น เธออยู่ในภาวะสับสนอย่างหนัก แต่ก่อนจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น เธอได้พบกับบากองอีกครั้งและทั้งคู่ก็ได้ปรับความเข้าใจกัน แต่เมื่อนุชนาฏกลับเข้ามาซ้อมการแสดง กลับพบว่าพระมหาอุปราชมีรับสั่งให้ทําการแสดงเรื่องรามเกียรติ์
เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงละครหลวงได้ถูกกราบทูลต่อพระมหาอุปราช ทำให้พระสนมมาลาและนุชนาฏในร่างนางปิ่นถูกเรียกไปไต่สวนพร้อมกันยังท้องพระโรง แต่เรื่องราวกลับโกลาหลขึ้น เมื่อข่าวลือว่านุชนาฏเป็นแม่มดหมอผีถูกยกขึ้นมาพูดอีกครั้ง พระเจ้าปดุงจึงท้าให้ทำนายอนาคต
นุชนาฏในร่างนางปิ่นหมดอาลัยตายอยากอยู่ในคุก เธอได้เผชิญหน้ากับพระสนมมาลาอีกครั้งแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรดีขึ้น ในขณะที่บากองและหม่องสะรวบรวมความกล้าเข้าเฝ้าพระมหาอุปราชเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้นางปิ่น สุดท้ายบากองเอาแต่ขีดเขียนคำนวณฤกษ์ยามฟ้าดิน
พระมหาอุปราชยังคงผิดหวังกับบากอง ทหารคนสนิทที่ไว้ใจและร่วมเสี่ยงตายด้วยกันมา แต่ชะตากรรมของข้ารับใช้อย่างบากองและนุชนาฏในร่างนางปิ่นจะเปลี่ยนใจเจ้าแผ่นดินได้หรือไม่ ระหว่างนั้นหม่องสะรีบเข้ามาหานุชนาฏถึงในคุกเพื่อร่ำลา แต่นุชนาฏกลับขอให้จัดการแสดง